
การเต้นของหัวใจทารก ในครรภ์ ปกติอยู่ในช่วง 110-160 ครั้งต่อนาที
การเต้นของหัวใจทารก ในครรภ์ ปกติอยู่ในช่วง 110-160 ครั้งต่อนาที วิธีการตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ เป็นวิธีสำคัญในการประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์ อัตราการเต้นของหัวใจที่อยู่ในเกณฑ์ปกติแสดงให้เห็นว่าทารกได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ ในทางตรงกันข้าม หากพบว่าหัวใจเต้นผิดปกติ เช่น เต้นช้าหรือเร็วเกินไป อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพบางประการ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติมจากแพทย์
การติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ ทารกในครรถ์ช่วยให้สามารถตรวจพบภาวะผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และช่วยให้แพทย์สามารถดำเนินมาตรการป้องกันหรือรักษาได้อย่างทันท่วงที ดังนั้น การฝากครรภ์และเข้ารับการตรวจสุขภาพตามกำหนดจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคน
การพัฒนาของหัวใจทารกในครรภ์
หัวใจทารกเป็นอวัยวะที่เริ่มพัฒนาในระยะแรกของการตั้งครรภ์ โดยสามารถตรวจพบการเต้นของหัวใจได้ตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 5-6 สัปดาห์ผ่านทางอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด และเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 8-10 สามารถตรวจจับเสียงหัวใจด้วยเครื่อง Doppler ได้แล้ว

พัฒนาการของหัวใจทารกตามอายุครรภ์
สัปดาห์ที่ 3-4: หัวใจเริ่มเป็นโครงสร้างพื้นฐาน มีการแบ่งเป็นห้องหัวใจ
สัปดาห์ที่ 5-6: หัวใจเริ่มเต้นและสามารถเห็นผ่านอัลตราซาวด์
สัปดาห์ที่ 8-10: การเต้นของหัวใจ ทารก ชัดเจนขึ้นและมีอัตราการเต้นอยู่ที่ประมาณ 120-160 ครั้งต่อนาที (BPM)
สัปดาห์ที่ 12-20: อัตราการเต้นของหัวใจทารกจะอยู่ในช่วง 110-160 BPM ซึ่งเป็นค่าปกติ
สัปดาห์ที่ 20 ขึ้นไป: หัวใจของทารกมีพัฒนาการสมบูรณ์ขึ้นและสามารถตรวจจับเสียงหัวใจได้อย่างชัดเจนผ่านเครื่องมือแพทย์
ความสำคัญของการตรวจการเต้นของหัวใจทารก
การเฝ้าติดตามการเต้นของหัวใจ ทารก เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินสุขภาพและพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ การเต้นของหัวใจที่ปกติเป็นสัญญาณว่าทารกได้รับออกซิเจนและสารอาหารเพียงพอ หากมีความผิดปกติอาจบ่งบอกถึงภาวะเครียดของทารกหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ ทารก
อายุครรภ์ – หัวใจทารกมีการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นตามระยะของการตั้งครรภ์
สุขภาพของมารดา – ความเครียด ความดันโลหิตสูง หรือโรคประจำตัวของมารดาส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิตของทารก
ระดับออกซิเจน – หากทารกได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ อัตราการเต้นของหัวใจอาจเปลี่ยนแปลง
กิจกรรมของทารกในครรภ์ – ทารกที่เคลื่อนไหวมากอาจมีอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้น
การรับประทานอาหารและคาเฟอีนของมารดา – การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอาจทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ ทารก สูงขึ้นชั่วคราว

วิธีตรวจสอบการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์
อัลตราซาวด์ทางช่องคลอด (Transvaginal Ultrasound) – ใช้ตรวจหัวใจทารกในช่วงแรกของการตั้งครรภ์
Doppler Ultrasound – ใช้ฟังเสียงหัวใจทารกตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 10 สัปดาห์ขึ้นไป
Non-Stress Test (NST) – การทดสอบโดยใช้เครื่องมือจับการเต้นของหัวใจ ทารก เพื่อตรวจสอบสุขภาพ
Biophysical Profile (BPP) – การตรวจร่วมระหว่าง NST และอัลตราซาวด์เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวมของทารก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหัวใจทารก (FAQ)
– การเต้นของหัวใจ ทารก เริ่มเมื่อไหร่?
หัวใจทารกเริ่มเต้นตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 5-6 สัปดาห์ และสามารถตรวจพบได้ผ่านอัลตราซาวด์
– การเต้นของหัวใจ ทารก ในครรภ์ปกติควรเป็นเท่าไหร่?
อัตราการเต้นของหัวใจ ทารก ปกติอยู่ในช่วง 110-160 ครั้งต่อนาที ขึ้นอยู่กับอายุครรภ์และปัจจัยอื่น ๆ
– ถ้าหัวใจทารกเต้นช้าหรือเร็วเกินไป หมายถึงอะไร?
หัวใจเต้นช้า (<110 BPM) อาจเป็นสัญญาณของภาวะขาดออกซิเจนหรือปัญหาทางพันธุกรรม
หัวใจเต้นเร็ว (>160 BPM) อาจเกิดจากภาวะเครียดของทารกหรือมารดาได้รับสารกระตุ้น เช่น คาเฟอีน
– ทำไมบางครั้งฟังเสียงหัวใจทารกไม่ได้?
อาจเกิดจากตำแหน่งของทารก ปริมาณน้ำคร่ำ หรืออายุครรภ์ที่ยังน้อย ควรตรวจซ้ำในภายหลัง
– ควรทำอย่างไรหากพบว่าหัวใจทารกเต้นผิดปกติ?
ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและแนวทางการดูแลที่เหมาะสม
บทสรุป
การเต้นของหัวใจ ทารก ในครรภ์เป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงสุขภาพและพัฒนาการของทารกในครรภ์ อัตราการเต้นของหัวใจที่ปกติเป็นเครื่องชี้วัดว่าทารกได้รับออกซิเจนและสารอาหารเพียงพอ การตรวจติดตามอัตราการเต้นของหัวใจสามารถช่วยให้แพทย์วินิจฉัยปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ระยะแรก นอกจากนี้ การเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของทารก เช่น การเคลื่อนไหว และการตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ ก็มีความสำคัญเช่นกัน
หากพบความผิดปกติของหัวใจทารก ไม่ว่าจะเป็นการเต้นที่เร็วเกินไปหรือช้ากว่าปกติ ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่เหมาะสม เพราะสุขภาพของมารดามีผลต่อการทำงานของหัวใจทารกโดยตรง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และการลดความเครียดจะช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจของทารกในครรภ์ได้
สุดท้าย การฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่สามารถเฝ้าติดตามพัฒนาการของทารกและได้รับคำแนะนำจากแพทย์ในทุกระยะของการตั้งครรภ์ การดูแลสุขภาพทั้งของมารดาและทารกตั้งแต่ในครรภ์จะเป็นรากฐานที่ดีต่อสุขภาพของเด็กในอนาคต
- All
- อุปกรณ์ช่วยชีวิตและระบบทางเดินหายใจ
- อุปกรณ์ช่วยเหลือการเคลื่อนไหวและกายภาพบำบัด
- อุปกรณ์วินิจฉัยทางการแพทย์
- อุปกรณ์สำหรับโรงพยาบาลและผู้ป่วยในบ้าน
- เครื่องมือแพทย์สำหรับศัลยกรรม และ หัตถการ
- อุปกรณ์และวัสดุทางการแพทย์
- เวชสำอาง
- อุปกรณ์อื่นๆ

กระบอกพ่นยา Spacer for Aerosol with Silicone สำหรับต่อยาพ่นชนิด MDI มี 3 ไซต์ ขนาด (S, M, L) ฿300.00

อุปกรณ์ช่วยเดิน 4 ขา รุ่น W-04 Folding Walker วอร์คเกอร์พยุงเดิน พับได้ พกพาสะดวก มาตรฐานทางการแพทย์ ฿970.00

ปรอทวัดไข้ดิจิตอล Digital Thermometer รุ่น PT-03 ใช้วัดไข้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ วัดเร็ว แม่นยำ มาตรฐานเยอรมัน ฿150.00

รถเข็นผู้ป่วยมีเบรกมือ Wheelchair รุ่น PMW809 พับได้ ล้อซี่ลวดแบบยางตัน รับน้ำหนักได้ถึง 120 kg. Original price was: ฿15,000.00.฿2,989.00

เครื่องดูดเสมหะ แบบพกพา รุ่น PS-1A Portable Phlegm Suction Unit (รับประกัน 3 ปี) มอเตอร์จากเกาหลี ฿1,999.00

เจลอัลตร้าซาวด์ สีฟ้า/สีใส Aqua Ultrasound Gel ขนาด 250 ml. ใช้ในการทำหัตถการหรือใช้ได้เองที่บ้าน ฿129.00

ที่นอนลมแบบลอน Air Mattress รุ่น P-02 System) ป้องกันแผลกดทับ รองรับน้ำหนักได้ถึง 150 กก.. Original price was: ฿15,000.00.฿3,249.00