สายดูดเสมหะแบบมีคอนโทรลและไม่มีคอลโทรล

หายใจติดขัดเพราะเสมหะ? สาย ดูดเสมหะช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้นได้ทันที! แต่คุณรู้หรือไม่ว่า สาย ดูดเสมหะ มีทั้งแบบ มีคอนโทรล และ ไม่มีคอนโทรล แล้วแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ? สาย ดูดเสมหะ (Suction Catheter) เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับดูดเสมหะหรือของเหลวออกจากทางเดินหายใจของผู้ป่วย เพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น มีสองประเภทหลัก ได้แก่

PHENOMA Suction Catheter ชนิดไม่มีคอนโทรล No.10/12/14

PHENOMA Suction Catheter ชนิดมีคอนโทรล No.10/12/14

สาย ดูดเสมหะ PHENOMA Suction Catheter ชนิดไม่มีคอนโทรล Type Non Control
ถูกออกแบบมาให้ ยืดหยุ่นต่อการสอดเข้าร่างกายเพื่อลดการระคายเคืองผิวสัมผัส เพื่อให้ขณะที่ใช้งาน ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บน้อยที่สุด

**ใช้กับเครื่องดูดเสมหะได้ทุกชนิด**

 เลขที่จดแจ้งเครื่องมือแพทย์/อย. : 66-2-2-2-0014597
 ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขไทย
 ได้มาตรฐาน ISO13485

“สาย ดูดเสมหะ” ใช้ในการดูดกำจัดเสมหะ และของเหลวที่อยู่ในทางเดินหายใจ เช่น หลอดลม หรือลำคอ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถหายใจได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่สามารถขับเสมหะออกมาได้ด้วยตนเอง เช่น ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะหมดสติ, ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการกลืน หรือผู้ป่วยที่มีโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง

คุณสมบัติ
 – เพื่อขับเสมหะออกจากทางเดินหายใจส่วนบน
 – เพื่อกระตุ้นให้เกิดการไอขับเสมหะ
 – ป้องกันการสำลักสิ่งแปลกปลอมเข้าปอด
 – เพื่อการเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ

รายละเอียดสินค้า
 – ชนิดไม่มี Control ควบคุมแรงดูดไม่ได้
 – วัสดุ Soft PVC Medical Grade มีความใส และคืนรูปได้ดี ไม่หัก พับ งอ
 – ผ่านการฆ่าเชื้อ Ethylene Oxide Gas (E.O.Gas)
 – ความยาวสาย 50 cm. (วัดเฉพาะตัวสาย)

ขั้นตอน และวิธีการดูดเสมหะ
1.ล้างมือให้สะอาดก่อนด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์
2..จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 30ֹ – 45 องศา
3.สอดสาย ดูดเสมหะเข้าท่อทางเดินหายใจลึกเท่ากับท่อทางเดินหายใจ จากนั้นให้ดึงสายขึ้นมา 1 cm.
4.ทำการดูดเสมหะ และไม่ควรดูดเสมหะเกิน 3 ครั้ง/รอบ ระยะเวลาที่ใช้ในการดูดเสมหะแต่ละครั้งไม่ควรนานเกิน 10 -15 วินาที
5.หยุดพักนาน 20 – 30 วินาที ระหว่างการดูดเสมหะแต่ละครั้ง เพื่อป้องกันภาวะพร่องออกซิเจน
6.กรณีดูดเสมหะครบ 3 ครั้งแล้ว แต่ผู้ป่วยยังมีเสมหะมาก ให้เว้นระยะการดูดเสมหะซ้ำอย่างน้อย 2 -3 นาที

คำแนะนำ
 – ควรให้ผู้ป่วยงดอาหารประเภทข้าว ประมาณ 4 ชั่วโมง หรือนมก่อน 2 ชั่วโมง ก่อนดูดเสมหะ
 – สายดูดเสมหะชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง
 – ไม่ควรใช้สายดูดเสมหะหากบรรจุภัณฑ์ชำรุด
 – ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องและไม่อับชื้น

การเลือกขนาดสาย
 – เบอร์ 6-8 Fr. = เหมาะสำหรับทารก
 – เบอร์ 8-10 Fr. = เหมาะสำหรับเด็ก
 – เบอร์ 14-16 Fr. = เหมาะสำหรับผู้ใหญ่

ทั้งนี้ต้องเลือกสายยางดูดเสมหะให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเพื่อป้องกันภาวะปอดแฟบ หากเลือกสายยางดูดเสมหะขนาดใหญ่เกินไป จะทำให้เกิดช่องว่างของท่อหายใจลดลงจนไม่เพียงพอ ทำให้อากาศภายนอกถูกไหลเข้ามาแทนที่อากาศที่ถูกดูดออก

ขนาดสาย ดูดเสมหะphenomaแบบไม่มีคอลโทรล

สีดำ เบอร์ 10 FR.

สีขาว เบอร์ 12 FR.

สีเขียว เบอร์ 14 FR.

สาย ดูดเสมหะ PHENOMA Suction Catheter ชนิดมีคอนโทรล Type Control
ถูกออกแบบมาให้ ยืดหยุ่นต่อการสอดเข้าร่างกายเพื่อลดการระคายเคืองผิวสัมผัส เพื่อให้ขณะที่ใช้งาน ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บน้อยที่สุด

**ใช้กับเครื่องดูดเสมหะทุกชนิด**

เลขที่จดแจ้งเครื่องมือแพทย์/อย. : 66-2-2-2-0014597
ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขไทย
ได้มาตรฐาน ISO13485

“สาย ดูดเสมหะ” ใช้ในการดูดกำจัดเสมหะ และของเหลวที่อยู่ในทางเดินหายใจ เช่น หลอดลม หรือลำคอ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถหายใจได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่สามารถขับเสมหะออกมาได้ด้วยตนเอง เช่น ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะหมดสติ, ผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการกลืน หรือผู้ป่วยที่มีโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง

คุณสมบัติ
 –
เพื่อขับเสมหะออกจากทางเดินหายใจส่วนบน
 – เพื่อกระตุ้นให้เกิดการไอขับเสมหะ
 – ป้องกันการสำลักสิ่งแปลกปลอมเข้าปอด
 – เพื่อการเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ

รายละเอียดสินค้า
 –
ชนิดมี Control สำหรับควบคุมแรงดูดสุญญากาศ
 – วัสดุ Soft PVC Medical Grade มีความใส และคืนรูปได้ดี ไม่หัก พับ งอ
 – ผ่านการฆ่าเชื้อ Ethylene Oxide Gas (E.O.Gas)
 – ความยาวสาย 50 cm. (วัดเฉพาะตัวสาย)

ขั้นตอน และวิธีการดูดเสมหะ
1.ล้างมือให้สะอาดก่อนด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์
2.จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 30ֹ – 45 องศา
3.สอดสายดูดเสมหะเข้าท่อทางเดินหายใจลึกเท่ากับท่อทางเดินหายใจ จากนั้นให้ดึงสายขึ้นมา 1 cm.
4.ทำการดูดเสมหะ และไม่ควรดูดเสมหะเกิน 3 ครั้ง/รอบ ระยะเวลาที่ใช้ในการดูดเสมหะแต่ละครั้งไม่ควรนานเกิน 10 -15 วินาที
5.หยุดพักนาน 20 – 30 วินาที ระหว่างการดูดเสมหะแต่ละครั้ง เพื่อป้องกันภาวะพร่องออกซิเจน
6.กรณีดูดเสมหะครบ 3 ครั้งแล้ว แต่ผู้ป่วยยังมีเสมหะมาก ให้เว้นระยะการดูดเสมหะซ้ำอย่างน้อย 2 -3 นาที

คำแนะนำ
 – ควรให้ผู้ป่วยงดอาหารประเภทข้าว ประมาณ 4 ชั่วโมง หรือนมก่อน 2 ชั่วโมง ก่อนดูดเสมหะ
 – สาย ดูดเสมหะชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง
 – ไม่ควรใช้สายดูดเสมหะหากบรรจุภัณฑ์ชำรุด
 – ควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องและไม่อับชื้น

การเลือกขนาดสาย 
 – เบอร์ 6-8 Fr. = เหมาะสำหรับทารก
 – เบอร์ 8-10 Fr. = เหมาะสำหรับเด็ก
 – เบอร์ 14-16 Fr. = เหมาะสำหรับผู้ใหญ่

ทั้งนี้ต้องเลือกสายยางดูดเสมหะให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเพื่อป้องกันภาวะปอดแฟบ หากเลือกสายยางดูดเสมหะขนาดใหญ่เกินไป จะทำให้เกิดช่องว่างของท่อหายใจลดลงจนไม่เพียงพอ ทำให้อากาศภายนอกถูกไหลเข้ามาแทนที่อากาศที่ถูกดูดออก

ขนาดสาย ดูดเสมหะphenomaแบบมีคอลโทรล

สีดำ เบอร์ 10 FR.

สีขาว เบอร์ 12 FR.

สีเขียว เบอร์ 14 FR.

ความแตกต่าง สาย ดูดเสมหะ

สาย ดูดเสมหะไม่มีคอลโทรล

สายดูดเสมหะ PHENOMA Suction Catheter

ลักษณะเด่น: ไม่มีช่องควบคุมแรงดูด

การควบคุมแรงดูด:
แรงดูดคงที่ตลอดเวลา ไม่สามารถปรับแรงดูดได้

ความสะดวกในการใช้งาน:  ใช้งานง่าย เพียงต่อกับเครื่องดูดเสมหะแล้วใช้งานได้ทันที

ความปลอดภัย: อาจทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจระคายเคืองได้ หากใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการบอบบาง

สาย ดูเสมหะแบบมีคอลโทรล

สายดูดเสมหะ PHENOMA Suction Catheter

ลักษณะเด่น: มีช่องควบคุมแรงดูด

การควบคุมแรงดูด:
สามารถปรับแรงดูดได้โดยการปิด-เปิดช่องคอนโทรล 

ความสะดวกในการใช้งาน:
ต้องใช้มือควบคุมขณะใช้งาน  

ความปลอดภัย:
ลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองของเยื่อบุทางเดินหายใจ เนื่องจากสามารถควบคุมแรงดูดได้

ใบอนุญาตโฆษณาเลขที ฆพ.1235/2567
**กรุณาอ่านคำเตือนในฉลากและเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ก่อนใช้งาน**
182/107 หมู่ที่ 4 ถนน ศรีจันทร์ ตำบล ในเมือง อำเภอ เมืองขอนแก่น จังหวัด ขอนแก่น 40000

คำถามที่พบบ่อย

สาย ดูดเสมหะคืออะไร?

สายดูดเสมหะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกำจัดเสมหะหรือสารคัดหลั่งอื่น ๆ จากทางเดินหายใจของผู้ป่วย เพื่อช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น

สาย ดูดเสมหะที่มีตัวควบคุมจะมีวาล์วหรือปุ่มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมแรงดูดได้ตามต้องการ ในขณะที่สายที่ไม่มีตัวควบคุมจะไม่มีฟังก์ชันนี้

การมีตัวควบคุมช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแรงดูดตามความจำเป็น ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อในทางเดินหายใจ

 

สาย ดูดเสมหะที่ไม่มีตัวควบคุมอาจเหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องการการดูดเสมหะอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยไม่จำเป็นต้องปรับแรงดูด

ในบางกรณี การใช้น้ำเกลือสามารถช่วยทำให้เสมหะเหลวขึ้นและง่ายต่อการกำจัด

 
Scroll to Top